สอบครั้งที่ ๒  วันที่  ๑๑  เมษายน  พ.ศ. ๒๕๕๓
 
๑.
อักขรวิธีและวจีวิภาค  มีลักษณะต่างกันอย่างไร ฯ  ในคำว่า  “จิตฺตํ  ทนฺตํ 
 
สุขาวหํ” นี้  เฉพาะคำที่ขีดเส้นใต้ เป็นครุหรือลหุ ฯ
 
๒.
สนธิ มีอุปการะแก่บาลีไวยากรณ์อย่างไร ฯ  พุทฺธสฺสาหสฺมิ  ในคำว่า
 
“พุทฺธสฺสาหสฺมิ ทาโส ว”  เป็นสนธิอะไร ฯ ตัดและต่ออย่างไร ฯ
 
๓.
จงตอบคำถามต่อไปนี้
 
ก.
เชฏฺ  เป็นอะไรในนามศัพท์ ฯ  และเป็นลิงค์อะไร ฯ
 
ข.
อุปาสิเก  มีวิธีทำตัวอย่างไร ฯ
 
ค.
ตฺวํ,  กตโร  เป็นสัพพนามชนิดไหน ฯ
 
ฆ.
นิบาตนั้น  สำหรับใช้อย่างไร ฯ
 
ง.
อิทานิ,  ตหึ  แปลว่าอย่างไร ฯ  สำเร็จรูปมาจากอะไร ฯ
 
๔.
ในอาขยาต  อ  อาคม  และ  อิ  อาคม  ใช้ประกอบกับกิริยาได้ทั่วไป
 
 
หรือมีจำกัดอย่างไร ฯ  จงแจก  คหฺ ธาตุ (ในความถือเอา) 
 
ด้วยวิภัตติหมวดปัญจมีเฉพาะปรัสสบทมาดู ฯ
 
๕.
การกำหนดรูปของสาธนะนั้นๆ ต้องอาศัยอะไรเป็นหลัก  จงอธิบาย ฯ 
 
 
ปูชา  ในคำว่า  “ปูชา จ ปูชนียานํ”  ลงปัจจัยอะไร ฯ 
 
เป็นรูป และสาธนะอะไร  จงตั้งวิเคราะห์มาดู ฯ
 
๖.
สมาสอะไรบ้าง นิยมบทปลงเป็นนปุงสกลิงค์ เอกวจนะอย่างเดียว ฯ 
 
 
และจะทราบได้อย่างไรว่าเป็นสมาสไหน ฯ  มุนิวรวจนํ  เป็นสมาสอะไรบ้าง
 
จงตั้งวิเคราะห์มาตามลำดับ ฯ
 
๗.
เสฏฐตัทธิตมีปัจจัยเท่าไร ฯ อะไรบ้าง ฯ ต่างจากปัจจัยในตัทธิตอื่นอย่างไร ฯ 
 
 
ทีฆายุตา  ลงปัจจัยอะไร ฯ ในตัทธิตไหน ฯ  จงตั้งวิเคราะห์มาดู ฯ
 
 
***************
 
 
ให้เวลา ๓ ชั่วโมง
 

 

   
   
   
   

กลับไปเลือก พ.ศ.ใหม่