ปัญหาและเฉลย
วิชาพุทธานุพุทธประวัติ ธรรมศึกษาชั้นเอก
สอบในสนามหลวง
วันอาทิตย์ ที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๖
เวลา ๑๔.๐๐ - ๑๔.๕๐ น.
คำสั่ง :
จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว แล้วฝนลงในช่องของข้อ
ที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
๑.
ปัญจมหาวิโลกนะที่พระบรมโพธิสัตว์ทรงพิจารณา คือข้อใด ?
ก.
แคว้น เมือง ชนบท สกุล มารดา
ข.
ประเทศ บิดา มารดา อายุ สกุล
ค.
กาล ทวีป ประเทศ สกุล มารดา
ง.
ประเทศ สกุล มารดา วรรณะ
ศาสนา
๒.
ใครทำนายลักษณะพระมหาบุรุษเป็นคนแรก ?
ก.
กบิลดาบส
ข.
กาฬเทวิลดาบส
ค.
อาฬารดาบส
ง.
โกณฑัญญพราหมณ์
๓.
สิทธัตถราชกุมารทรงนับถือศาสนาใดมาก่อน ?
ก.
ศาสนาพุทธ
ข.
ศาสนาอิสลาม
ค.
ศาสนาพราหมณ์
ง.
ศาสนาฮินดู
๔.
พระมหาบุรุษ ทรงบำเพ็ญอปาณกฌานอย่างไร ?
ก.
กลั้นลมหายใจ
ข.
นอนบนหนาม
ค.
เอาลิ้นกดเพดาน
ง.
อดอาหาร
๕.
พระมหาบุรุษได้อุปมา ๓ ข้อ ณ สถานที่ใด ?
ก.
เมืองกบิลพัสดุ์
ข.
ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม
ค.
ฝั่งแม่น้ำคงคา
ง.
ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
๖.
พระญาณอะไร ทำให้พระพุทธองค์เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ?
ก.
ปุพเพนิวาสานุสติญาณ
ข.
จุตูปปาตญาณ
ค.
อาสวักขยญาณ
ง.
ถูกทุกข้อ
๗.
เทฺววาจิกอุปาสก คือใคร ?
ก.
อนาถบิณฑิกเศรษฐี
ข.
บิดาพระยสะ
ค.
พระเจ้าพิมพิสาร
ง.
ตปุสสะและภัลลิกะ
๘.
พระพุทธเจ้าทรงแสดงไตรลักษณ์ครั้งแรกแก่ใคร ?
ก.
พระยสะ
ข.
ปัญจวัคคีย์
ค.
สหายพระยสะ
ง.
พระมหากัสสปะ
๙.
พระยสะบรรลุอรหัตผล เพราะฟังธรรมเทศนาชื่อว่าอะไร ?
ก.
ธัมมจักกัปปวัตนสูตร
ข.
อนัตตลักขณสูตร
ค.
อาทิตตปริยายสูตร
ง.
อนุปุพพีกถาและจตุราริยสัจ
๑๐.
พระอริยสาวกองค์ที่ ๖ คือใคร ?
ก.
พระอัสสชิ
ข.
พระวิมละ
ค.
พระยสะ
ง.
พระสุพาหุ
๑๑.
เรื่องที่กล่าวถึงการรักษากาย วาจาให้เรียบร้อยชื่อว่าอะไร ?
ก.
ทานกถา
ข.
สีลกถา
ค.
สัคคกถา
ง.
กามาทีนวกถา
๑๒.
ฝนโบกขรพรรษที่ตกลงในท่ามกลางสมาคมพระญาติของพระพุทธเจ้า
มีสีอะไร ?
ก.
แดง
ข.
แดงเข้ม
ค.
ขาวใส
ง.
เหลือง
๑๓.
ก่อนเป็นพุทธสาวก พระสารีบุตรบวชอยู่กับใคร ?
ก.
อาฬารดาบส
ข.
สัญชัยปริพาชก
ค.
นิครนถนาฏบุตร
ง.
ชัมพุกาชีวก
๑๔.
คำว่า
“ เราจักไม่ชูงวง เข้าไปสู่สกุล ”
พระองค์ตรัสสอนใคร ?
ก.
พระสารีบุตร
ข.
พระอุรุเวลกัสสปะ
ค.
พระโมคคัลลานะ
ง.
พระมหากัสสปะ
๑๕.
พระสาวกรูปใด อุปสมบทด้วยการรับพระโอวาท ๓ ข้อ ?
ก.
พระอานนท์
ข.
พระมหากัสสปะ
ค.
พระสารีบุตร
ง.
พระอนุรุทธะ
๑๖.
พระมหากัสสปะบวชที่ไหน ?
ก.
พหุปุตตนิโครธ
ข.
ถ้ำสัตตบรรณคูหา
ค.
ถ้ำสุกรขาตา
ง.
วัดเวฬุวัน
๑๗.
วันจาตุรงคสันนิบาต ตรงกับวันไหน ?
ก.
ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓
ข.
ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖
ค.
ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘
ง.
ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑
๑๘.
ใครเป็นผู้สร้างวัดเชตวัน ?
ก.
เจ้าเชตุ
ข.
พระเจ้าอชาตศัตรู
ค.
โฆสกเศรษฐี
ง.
อนาถบิณฑิกเศรษฐี
๑๙.
ใครทูลเชิญพระศาสดาเสด็จไปกรุงกบิลพัสดุ์ได้สำเร็จ ?
ก.
พระกาฬุทายี
ข.
พระอานนท์
ค.
พระอุบาลี
ง.
พระราหุล
๒๐.
ใครทูลขอให้บวชกุลบุตรที่มารดาบิดาอนุญาตเสียก่อน ?
ก.
พระเจ้าพิมพิสาร
ข.
พระเจ้าอชาตศัตรู
ค.
พระเจ้าสุทโธทนะ
ง.
พระเจ้าโกรัพยะ
๒๑.
พระเถระรูปใด บวชก่อน ?
ก.
พระภคุ
ข.
พระกิมพิละ
ค.
พระอานนท์
ง.
พระอุบาลี
๒๒.
ใครได้รับยกย่องว่า เป็นแบบอย่างที่ดีของผู้มีความกตัญญูกตเวที ?
ก.
พระราหุล
ข.
พระสารีบุตร
ค.
พระอนุรุทธะ
ง.
พระอัสสชิ
๒๓.
พระราธะอุปสมบทด้วยวิธีใด ?
ก.
เอหิภิกขุอุปสัมปทา
ข.
โอวาทปฏิคคหณูปสัมปทา
ค.
ติสรณคมนูปสัมปทา
ง.
ญัตติจตุตถกรรมอุปสัมปทา
๒๔.
พระอานนท์ได้บรรลุโสดาปัตติผล เพราะได้ฟังธรรมจากใคร ?
ก.
พระพุทธเจ้า
ข.
พระสารีบุตร
ค.
พระปุณณมันตานีบุตร
ง.
พระอัสสชิ
๒๕.
พระธรรมเทศนาใด กล่าวเรื่องขันธ์ ๕ ?
ก.
อนัตตลักขณสูตร
ข.
เวสสันดรชาดก
ค.
อนุปุพพีกถา
ง.
สามุกกังสิกเทศนา
๒๖.
พระสาวกรูปใด บวชด้วยศรัทธา ?
ก.
พระราธะ
ข.
พระรัฐบาล
ค.
พระอนุรุทธะ
ง.
พระภัททิยะ
๒๗.
ธรรมุเทศ ๔ ใครแสดงแก่ใคร ?
ก.
พระสารีบุตรแสดงแก่
พระเจ้าพิมพิสาร
ข.
พระอานนท์แสดงแก่
พระเจ้าปเสนทิโกศล
ค.
พระรัฐบาลแสดงแก่
พระเจ้าโกรัพยะ
ง.
พระมหากัจจายนะแสดงแก่
พระเจ้าจัณฑปัชโชต
๒๘.
ข้อใด ชื่อว่าอริยธรรม ?
ก.
ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
ข.
ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ
ค.
ศีล สมาธิ ปัญญา
ง.
สัจจะ ทมะ ขันติ
๒๙.
พระพุทธเจ้า ทรงแสดงอภิญญาเทสิตธรรมที่ไหน ?
ก.
กูฏาคารศาลา
ข.
โภคนคร
ค.
อานันทเจดีย์
ง.
ภัณฑุคาม
๓๐.
“ ธรรมนี้เป็นของผู้มีสติตั้งมั่น ไม่ใช่ของผู้มีสติหลงลืม ”
เป็นความตรึกของพระเถระรูปใด ?
ก.
พระภัททิยะ
ข.
พระอานนท์
ค.
พระอนุรุทธะ
ง.
พระอุบาลี
๓๑.
ใครทำหน้าที่วินิจฉัยอธิกรณ์ เรื่องมารดาของพระกุมารกัสสปะ ?
ก.
พระสารีบุตร
ข.
พระโมคคัลลานะ
ค.
พระสีวลี
ง.
พระอุบาลี
๓๒.
พระโสณโกฬิวิสะได้รับเอตทัคคะด้านใด ?
ก.
ปรารภความเพียร
ข.
สวดเสียงไพเราะ
ค.
แสดงธรรมพิสดาร
ง.
มักน้อยสันโดษ
๓๓.
ใครบรรพชาเป็นสามเณรถึง ๓ ปี จึงได้การอุปสมบท ?
ก.
พระมหากัจจายนะ
ข.
พระวังคีสะ
ค.
พระโสณโกฬิวิสะ
ง.
พระโสณกุฏิกัณณะ
๓๔.
พระเจ้าจัณฑปัชโชตทรงสดับธรรมจากใครเป็นครั้งแรก ?
ก.
พระมหากัจจายนะ
ข.
พระโมคคัลลานะ
ค.
พระมหากัสสปะ
ง.
พระพุทธเจ้า
๓๕.
ใครกล่าวว่า
“ พราหมณ์ถือตัวว่าประเสริฐบริสุทธิ์เกิดจากพรหม ”
?
ก.
พระเจ้าจัณฑปัชโชต
ข.
พระเจ้ามธุรราช
ค.
พระเจ้าโกรัพยะ
ง.
ปุณณกมาณพ
๓๖.
ใครตั้งสำนักอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำโคธาวารี ?
ก.
ชฎิล ๓ พี่น้อง
ข.
สัญชัยปริพาชก
ค.
อาฬารดาบส
ง.
พาวรีพราหมณ์
๓๗.
ข้อใด เรียกว่าปฏิปุจฉาพยากรณ์ ?
ก.
ทรงย้อนถามแล้วจึงแก้ปัญหา
ข.
ทรงแยกปัญหาแก้ทีละข้อ
ค.
ทรงแก้ปัญหานั้นโดยส่วนเดียว
ง.
ทรงระงับไม่แก้ปัญหานั้น
๓๘.
ในมาณพ ๑๖ คนนั้น ใครได้รับเอตทัคคะ ?
ก.
โมฆราชมาณพ
ข.
ปิงคิยมาณพ
ค.
อชิตมาณพ
ง.
ปุณณกมาณพ
๓๙.
รถวินีตสูตร กล่าวถึงธรรมข้อใด ?
ก.
สิกขา ๓
ข.
ญาณ ๓
ค.
อริยสัจ ๔
ง.
วิสุทธิ ๗
๔๐.
ใครเป็นผู้ถวายผ้าสิงคิวรรณ ?
ก.
ตปุสสะ
ข.
ปุกกุสะ
ค.
ภัลลิกะ
ง.
จุนทะ
๔๑.
พระสุภัททพุทธปัจฉิมสาวกอุปสมบทด้วยวิธีใด ?
ก.
เอหิภิกขุอุปสัมปทา
ข.
โอวาทปฏิคคหณูปสัมปทา
ค.
ติสรณคมนูปสัมปทา
ง.
ญัตติจตุตถกรรมอุปสัมปทา
๔๒.
พระฉันนะฟังธรรมจากใคร จึงได้สำเร็จมรรคผล ?
ก.
พระสารีบุตร
ข.
พระอนุรุทธะ
ค.
พระอานนท์
ง.
พระปุณณมันตานีบุตร
๔๓.
บิณฑบาตที่ตรัสว่ามีอานิสงส์มาก มีกี่ครั้ง ?
ก.
๒ ครั้ง
ข.
๓ ครั้ง
ค.
๔ ครั้ง
ง.
๕ ครั้ง
๔๔.
พระพุทธเจ้าทรงแสดงปัจฉิมโอวาทที่ไหน ?
ก.
อัมพวัน
ข.
สาลวโนทยาน
ค.
ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
ง.
ลัฏฐิวัน
๔๕.
พระเขมาเถรีได้รับเอตทัคคะด้านใด ?
ก.
มีปัญญามาก
ข.
มีฤทธิ์มาก
ค.
ชำนาญสมาบัติ
ง.
มีความเพียรมาก
๔๖.
พระเถรีรูปใด ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นผู้เลิศทางวินัย ?
ก.
พระภัททากัจจานาเถรี
ข.
พระปชาบดีโคตมีเถรี
ค.
พระปฏาจาราเถรี
ง.
พระรูปนันทาเถรี
๔๗.
สังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่ง จัดเป็นเจดีย์ประเภทใด ?
ก.
ธาตุเจดีย์
ข.
บริโภคเจดีย์
ค.
ธรรมเจดีย์
ง.
อุทเทสิกเจดีย์
๔๘.
โทณพราหมณ์แบ่งพระบรมสารีริกธาตุออกเป็นกี่ส่วน ?
ก.
๕ ส่วน
ข.
๖ ส่วน
ค.
๗ ส่วน
ง.
๘ ส่วน
๔๙.
อะไรเป็นมูลเหตุแห่งการทำปฐมสังคายนา ?
ก.
เดียรถีย์ปลอมบวช
ข.
ภิกษุแสดงวัตถุ ๑๐ ประการ
ค.
ภิกษุกล่าวจ้วงจาบพระธรรมวินัย
ง.
ภิกษุประพฤติผิดพระธรรมวินัย
๕๐.
ใคร เป็นอัครศาสนูปถัมภกปฐมสังคายนา ?
ก.
มัลลกษัตริย์
ข.
พระเจ้าปเสนทิโกศล
ค.
พระเจ้ากาฬาโศกราช
ง.
พระเจ้าอชาตศัตรู
เอกสารอ้างอิง
เรื่องสอบธรรม ของสนามหลวงแผนกธรรม พ.ศ.๒๕๔๖. หน้า ๒๐๓-๒๑๓.
ข้อสอบสนามหลวง
พ.ศ. ๒๕๔๖
พ.ศ. ๒๕๔๗
พ.ศ. ๒๕๔๘
พ.ศ. ๒๕๔๙
พ.ศ. ๒๕๕๐
พ.ศ. ๒๕๕๑
พ.ศ. ๒๕๕๒
พ.ศ. ๒๕๕๓
พ.ศ. ๒๕๕๔
พ.ศ. ๒๕๕๕
พ.ศ. ๒๕๕๖
พ.ศ. ๒๕๕๗
พ.ศ. ๒๕๕๘
พ.ศ. ๒๕๕๙
พ.ศ. ๒๕๖๐
พ.ศ. ๒๕๖๑
พ.ศ. ๒๕๖๒
พ.ศ. ๒๕๖๓
พ.ศ. ๒๕๖๔
พ.ศ. ๒๕๖๕
พ.ศ. ๒๕๖๖
พ.ศ. ๒๕๖๗
พ.ศ. ๒๕๖๘
พ.ศ. ๒๕๖๙
พ.ศ. ๒๕๗๐
พ.ศ. ๒๕๗๑
พ.ศ. ๒๕๗๒
พ.ศ. ๒๕๗๓
พ.ศ. ๒๕๗๔
พ.ศ. ๒๕๗๕
พ.ศ. ๒๕๗๖
พ.ศ. ๒๕๗๗
พ.ศ. ๒๕๗๘
พ.ศ. ๒๕๗๙
พ.ศ. ๒๕๘๐
พ.ศ. ๒๕๘๑
พ.ศ. ๒๕๘๒
พ.ศ. ๒๕๘๓
พ.ศ. ๒๕๘๔
พ.ศ. ๒๕๘๕
พ.ศ. ๒๕๘๖
พ.ศ. ๒๕๘๗
พ.ศ. ๒๕๘๘
พ.ศ. ๒๕๘๙
พ.ศ. ๒๕๙๐
พ.ศ. ๒๕๙๑
พ.ศ. ๒๕๙๒
พ.ศ. ๒๕๙๓
พ.ศ. ๒๕๙๔
พ.ศ. ๒๕๙๕
พ.ศ. ๒๕๙๖
พ.ศ. ๒๕๙๗
พ.ศ. ๒๕๙๘
พ.ศ. ๒๕๙๙
พ.ศ. ๒๖๐๐