๑. |
การถือศีลอุโบสถ เพื่อประโยชน์อะไร ? |
|
ก. |
เพื่อหยุดพักผ่อนของฆราวาส |
ข. |
เพื่อทำกิจกรรมทางพระศาสนา |
|
ค. |
เพื่อสวดปาติโมกข์ทุกวันพระ |
ง. |
เพื่อพระสงฆ์ทำอุโบสถกรรม |
|
|
|
|
|
๒. |
การรักษาอุโบสถศีล จัดเข้าในพิธีใด ? |
|
ก. |
กุศลพิธี |
ข. |
บุญพิธี |
|
ค. |
ทานพิธี |
ง. |
ปกิณกะ |
|
|
|
|
|
๓. |
เข้าบ้านให้เข้าทางประตู จะเข้าสู่พระพุทธศาสนา ท่านว่าทางใด? |
|
ก. |
ศีล |
ข. |
กัมมัฏฐาน |
|
ค. |
พระธรรมคำสอน |
ง. |
พระรัตนตรัย |
|
|
|
|
|
๔. |
คำว่า “สรณะ” หมายถึงอะไร ? |
|
ก. |
ไตรลักษณ์ |
ข. |
ไตรสิกขา |
|
ค. |
ไตรรัตน์ |
ง. |
ไตรมาส |
|
|
|
|
|
๕. |
คำว่า “สรณคมน์” หมายถึงอะไร ? |
|
ก. |
การยึดเอาเป็นที่พึ่ง |
ข. |
การสักยันต์ป้องกันตัว |
|
ค. |
การถือศีลกินเจ |
ง. |
การมอบตนเป็นสาวก |
|
|
|
|
|
๖. |
ข้อใด ไม่ใช่สาเหตุแห่งการขาดสรณคมน์ ? |
|
ก. |
ตาย |
ข. |
ไปเข้ารีตถือศาสนาอื่น |
|
ค. |
ลบหลู่พระภูมิเจ้าที่ |
ง. |
ลบหลู่ดูหมิ่นพระสงฆ์ |
|
|
|
|
|
๗. |
อะไรเป็นสาเหตุให้สรณคมน์เศร้าหมอง ? |
|
ก. |
อาราธนาศีลไม่ได้ |
ข. |
สงสัยเรื่องบาปบุญ |
|
ค. |
สมาทานศีลไม่ชัด |
ง. |
ถูกทุกข้อ |
|
|
|
|
|
๘. |
ข้อใด ไม่ใช่ความหมายของคำว่า “พุทธะ” ? |
|
ก. |
ผู้รู้ |
ข. |
ผู้ตื่น |
|
ค. |
ผู้เบิกบาน |
ง. |
ผู้รู้ตาม |
|
|
|
|
|
๙. |
การเข้าหาพระรัตนตรัยอย่างไร จึงถูกต้อง ? |
|
ก. |
สวดมนต์ภาวนา |
ข. |
แสวงหาโชคลาภ |
|
ค. |
กราบขอพร |
ง. |
วิงวอนขอหวย |
|
|
|
|
|
๑๐. |
การถือศีลอุโบสถ เป็นกิจกรรมพิเศษอย่างหนึ่งของใคร ? |
|
ก. |
พระภิกษุ |
ข. |
คนถูกคุณไสย |
|
ค. |
หมอดู |
ง. |
อุบาสก อุบาสิกา |
|
|
|
|
|
๑๑. |
การถืออุโบสถ มีมาแต่ครั้งใด ? |
|
ก. |
ก่อนพุทธกาล |
ข. |
สมัยพุทธกาล |
|
ค. |
หลังพุทธกาล |
ง. |
หลักฐานไม่แน่ชัด |
|
|
|
|
|
๑๒. |
การถือศีลอุโบสถในปัญจอุโปสถชาดก เพื่อข่มอะไร ? |
|
ก. |
ความโลภ |
ข. |
ความโกรธ |
|
ค. |
ความถือตัว |
ง. |
ถูกทุกข้อ |
|
|
|
|
|
๑๓. |
ปกติอุโบสถ กำหนดให้สมาทานรักษานานเท่าไร ? |
|
ก. |
วันหนึ่งคืนหนึ่ง |
ข. |
คราวละ ๓ วัน |
|
ค. |
ตลอด ๓ เดือน |
ง. |
ตลอด ๔ เดือน |
|
|
|
|
|
๑๔. |
ข้อใด ไม่ตรงกับวันในปฏิชาครอุโบสถ ? |
|
ก. |
วันรับ |
ข. |
วันส่ง |
|
ค. |
วันลา |
ง. |
วันรักษา |
|
|
|
|
|
๑๕. |
ปาฏิหาริยอุโบสถ กำหนดให้สมาทานรักษานานเท่าไร ? |
|
ก. |
วันหนึ่งคืนหนึ่ง |
ข. |
คราวละ ๓ วัน |
|
ค. |
คราวละ ๔ เดือน |
ง. |
คราวละ ๘ เดือน |
|
|
|
|
|
๑๖. |
ในปัญจอุโปสถชาดก ใครรักษาอุโบสถเพื่อระงับความเสียใจ ? |
|
ก. |
ฤษี |
ข. |
นกพิราบ |
|
ค. |
หมี |
ง. |
สุนัขจิ้งจอก |
|
|
|
|
|
๑๗. |
เมื่อถึงวันอุโบสถ ใครพึงสมาทานรักษาศีลอุโบสถ ? |
|
ก. |
เจ้าอาวาส |
ข. |
พระลูกวัด |
|
ค. |
สามเณร |
ง. |
สาธุชนทั่วไป |
|
|
|
|
|
๑๘. |
ข้อใด ผู้สมาทานรักษาศีลอุโบสถพึงกระทำ ? |
|
ก. |
เล่าชาดก |
ข. |
แต่งหน้า |
|
ค. |
ฟังละครวิทยุ |
ง. |
เปิดกรุของเก่า |
|
|
|
|
|
๑๙. |
คำประกาศอุโบสถ กำหนดให้ทำต่อจากขั้นตอนใด ? |
|
ก. |
บูชาพระรัตนตรัย |
ข. |
รับสรณคมน์ |
|
ค. |
อาราธนาศีล |
ง. |
สมาทานศีล |
|
|
|
|
|
๒๐. |
“ข้าพเจ้าขอบูชาพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเครื่องสักการะนี้”
เป็นคำกล่าวอยู่ในขั้นตอนใด ? |
|
ก. |
บูชาพระรัตนตรัย |
ข. |
ประกาศอุโบสถ |
|
ค. |
รับสรณคมน์ |
ง. |
อาราธนาศีล |
|
|
|
|
|
๒๑. |
การรับว่าจะตั้งใจปฏิบัติตามศีลที่พระให้นั้น เรียกว่าอะไร ? |
|
ก. |
อธิษฐานศีล |
ข. |
อาราธนาศีล |
|
ค. |
สมาทานศีล |
ง. |
ถือศีลอด |
|
|
|
|
|
๒๒. |
คนไม่รู้ภาษาบาลี แต่มีศรัทธาถือศีลอุโบสถ พึงสมาทานด้วยวิธีใด ? |
|
ก. |
กล่าวตามหัวหน้า |
ข. |
กล่าวภาษาไทย |
|
ค. |
อธิษฐานเอาเอง |
ง. |
ถูกทุกข้อ |
|
|
|
|
|
๒๓. |
ข้อใด อุโบสถศีลต่างจากศีล ๕ ? |
|
ก. |
กำหนดเวลารักษา |
ข. |
ไม่กำหนดเวลารักษา |
|
ค. |
เป็นพื้นฐานของมนุษย์ |
ง. |
ไม่ใช่พุทธบัญญัติ |
|
|
|
|
|
๒๔. |
แม้ทรัพย์ของตนเอง ก็ทำให้ผิดศีลข้อที่ ๒ ได้ ตรงกับข้อใด ? |
|
ก. |
ยืมของไม่ส่งคืน |
ข. |
หลบเลี่ยงภาษี |
|
ค. |
รับซื้อขายของโจร |
ง. |
บุกรุกพื้นที่อุทยาน |
|
|
|
|
|
๒๕. |
ทรัพย์ชนิดใด โจรลักไปไม่ได้ ? |
|
ก. |
อริยทรัพย์ |
ข. |
ทรัพย์แผ่นดิน |
|
ค. |
สังหาริมทรัพย์ |
ง. |
อสังหาริมทรัพย์ |
|
|
|
|
|
๒๖. |
อสัทธรรมเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์ คืออะไร ? |
|
ก. |
ความตาย |
ข. |
การล่วงประเวณี |
|
ค. |
ความแก่ |
ง. |
ความพลัดพราก |
|
|
|
|
|
๒๗. |
ผู้รักษาอุโบสถศีล ควรพูดจาปราศรัยอย่างไร ? |
|
ก. |
อย่าติฉิน |
ข. |
อย่านินทา |
|
ค. |
อย่าว่าร้าย |
ง. |
ถูกทุกข้อ |
|
|
|
|
|
๒๘. |
เครื่องดื่มชนิดใด ผู้สมาทานรักษาอุโบสถศีลดื่มไม่ได้ ? |
|
ก. |
น้ำผึ้ง |
ข. |
น้ำชา |
|
ค. |
น้ำจัณฑ์ |
ง. |
กาแฟ |
|
|
|
|
|
๒๙. |
ผู้สมาทานรักษาศีลอุโบสถ ควรสนทนากันด้วยเรื่องอะไร ? |
|
ก. |
เรื่องในบ้านตนเอง |
ข. |
เรื่องในบ้านคนอื่น |
|
ค. |
เรื่องสัตว์เลี้ยงน่ารัก |
ง. |
เรื่องเปรตผอมโซ |
|
|
|
|
|
๓๐. |
ผู้สมาทานรักษาศีลอุโบสถ พึงรับประทานอาหารให้เสร็จเวลาใด? |
|
ก. |
ก่อนเพล |
ข. |
ก่อนเที่ยง |
|
ค. |
เที่ยงครึ่ง |
ง. |
บ่ายโมง |
|
|
|
|
|
๓๑. |
ข้อใด ไม่ใช่กิจจำเป็นของผู้สมาทานรักษาศีลอุโบสถ ? |
|
ก. |
อดข้าวเย็น |
ข. |
เดินจงกรม |
|
ค. |
สวดมนต์ |
ง. |
ฟังปาติโมกข์ |
|
|
|
|
|
๓๒. |
อุโบสถศีลข้อที่ ๗ ให้งดเว้นอะไร ? |
|
ก. |
อาหารค่ำ |
ข. |
พูดคำหยาบ |
|
ค. |
ร้องเพลง |
ง. |
สูบบุหรี่ |
|
|
|
|
|
๓๓. |
การดูเช่นไร ไม่เป็นข้าศึกแก่กุศล ? |
|
ก. |
ดูพระเครื่อง |
ข. |
ดูดวงชะตา |
|
ค. |
ดูเกมแก้จน |
ง. |
ดูอาการ ๓๒ |
|
|
|
|
|
๓๔. |
การเล่นใด เป็นข้าศึกแก่กุศล ? |
|
ก. |
เล่นกล |
ข. |
เล่นตลก |
|
ค. |
เล่นแร่แปรธาตุ |
ง. |
ถูกทุกข้อ |
|
|
|
|
|
๓๕. |
ผู้สมาทานรักษาศีลอุโบสถ ไม่พึงนอนอย่างไร ? |
|
ก. |
นอนที่นอนสูง |
ข. |
นอนกลางวัน |
|
ค. |
นอนกลางดิน |
ง. |
นอนกรน |
|
|
|
|
|
๓๖. |
การถือศีลอุโบสถ ปล่อยวันคืนให้ผ่านพ้นไปโดยเปล่าประโยชน์
คิดอยากได้สิ่งโน้นสิ่งนี้ตลอดเวลา เป็นอุโบสถประเภทใด ? |
|
ก. |
โคปาลกอุโบสถ |
ข. |
อริยอุโบสถ |
|
ค. |
ปาฏิหาริยอุโบสถ |
ง. |
ปกติอุโบสถ |
|
|
|
|
|
๓๗. |
อุโบสถของนักบวชนอกพระพุทธศาสนา ตรงกับข้อใด ? |
|
ก. |
ปฏิชาครอุโบสถ |
ข. |
นิคัณฐอุโบสถ |
|
ค. |
ปาฏิหาริยอุโบสถ |
ง. |
ปกติอุโบสถ |
|
|
|
|
|
๓๘. |
อุโบสถใด ผู้สมาทานรักษาได้รับผลบุญมากที่สุด ? |
|
ก. |
โคปาลกอุโบสถ |
ข. |
นิคัณฐอุโบสถ |
|
ค. |
อริยอุโบสถ |
ง. |
ถูกทุกข้อ |
|
|
|
|
|
๓๙. |
ผู้สมาทานปกติอุโบสถ ต้องรักษาศีลอะไร ? |
|
ก. |
ศีล ๕ |
ข. |
ศีล ๘ |
|
ค. |
ศีล ๑๐ |
ง. |
ศีล ๒๒๗ |
|
|
|
|
|
๔๐. |
ข้อใด ไม่ใช่ศีลอุโบสถ ? |
|
ก. |
ไม่ใช้น้ำหอม |
ข. |
ไม่จับเงินทอง |
|
ค. |
ไม่ดูละครโขนหนัง |
ง. |
ไม่นั่งที่นั่งสูงใหญ่ |
|
|
|
|
|
๔๑. |
ข้อใด เป็นเหตุให้การถือศีลอุโบสถมีผลน้อย ? |
|
ก. |
จับเงินทอง |
ข. |
ถือศีลที่บ้าน |
|
ค. |
หงุดหงิดฟุ้งซ่าน |
ง. |
สมาทานเอง |
|
|
|
|
|
๔๒. |
ผู้ถือศีลอุโบสถ พึงมีความเชื่ออย่างไร ? |
|
ก. |
เชื่อกรรม |
ข. |
เชื่อบาปบุญ |
|
ค. |
ไม่เชื่อมงคลตื่นข่าว |
ง. |
ถูกทุกข้อ |
|
|
|
|
|
๔๓. |
คำว่า “ไม่ลวงโลก” ในอุโปสถสูตร หมายถึงศีลข้อใด ? |
|
ก. |
งดฆ่าสัตว์ |
ข. |
งดลักทรัพย์ |
|
ค. |
งดพูดเท็จ |
ง. |
งดดื่มน้ำเมา |
|
|
|
|
|
๔๔. |
กิจกรรมใด ไม่เหมาะสมแก่ผู้สมาทานรักษาศีลอุโบสถ ? |
|
ก. |
ไหว้พระสวดมนต์ |
ข. |
ท่องบ่นภาวนา |
|
ค. |
อ่านตำราหมอดู |
ง. |
เรียนรู้พระสูตร |
|
|
|
|
|
๔๕. |
ผู้สมาทานรักษาศีลอุโบสถ พึงปฏิบัติตนอย่างไร ? |
|
ก. |
งดเว้นการทำบาปกรรม |
ข. |
ทำแต่บุญกุศล |
|
ค. |
ทำจิตของตนให้ผ่องแผ้ว |
ง. |
ถูกทุกข้อ |
|
|
|
|
|
๔๖. |
ศีลอุโบสถที่สมาทานคราวเดียวพร้อมกัน หากข้อใดข้อหนึ่งขาด
จะมีผลต่อข้ออื่นอย่างไร ? |
|
ก. |
ขาดบางข้อ |
ข. |
ขาดทีละข้อ |
|
ค. |
ขาดทั้งหมด |
ง. |
ไม่ขาดทั้งหมด |
|
|
|
|
|
๔๗. |
เมื่อรักษาศีลอุโบสถครบตามกำหนดแล้ว พึงปฏิบัติอย่างไร ? |
|
ก. |
กล่าวคำลาพระรัตนตรัย |
ข. |
กล่าวคำลาศีล |
|
ค. |
กล่าวคำลาสิกขา |
ง. |
การสมาทานสิ้นสุดเอง |
|
|
|
|
|
๔๘. |
แว่นที่มัวหมองทำให้ใสได้โดยทำความสะอาด แต่ใจที่เศร้าหมองนั้น
ต้องทำอย่างไร ? |
|
ก. |
อย่าใจร้อน |
ข. |
อย่านอนใจ |
|
ค. |
ให้นึกถึงศีล |
ง. |
ให้กินข้าวได้ |
|
|
|
|
|
๔๙. |
คำว่า “ศีลช่วยทำให้รอด” มีความหมายตรงกับข้อใด ? |
|
ก. |
ศีลสร้างสวรรค์แก่มนุษย์ |
ข. |
ศีลสร้างความปลอดภัยแก่มนุษย์ |
|
ค. |
ศีลสร้างความเสมอภาคแก่มนุษย์ |
ง. |
ศีลสร้างความรุ่งเรืองแก่มนุษย์ |
|
|
|
|
|
๕๐. |
ผู้ไม่สามารถเข้าจำอุโบสถศีลได้ ทำอย่างไรจึงจะได้รับผลบุญ
เช่นเดียวกับผู้สมาทานรักษา ? |
|
ก. |
ช่วยดูดวงทางวิปัสสนา |
ข. |
เล่าเรื่องนางสีดาให้ฟัง |
|
ค. |
นั่งสนทนาธรรมตามกาล |
ง. |
อ่านนวนิยายประโลมโลก |
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
เอกสารอ้างอิง |
|
|
|
เรื่องสอบธรรม ของสนามหลวงแผนกธรรม พ.ศ.๒๕๔๗. หน้า ๑๖๙-๑๗๗. |
|
|
|
|
|