๙๗. |
อจฺจยํ เทสยนฺตีนํ |
โย เจ น ปฏิคณฺหติ |
|
โกปนฺตโร โทสครุ |
ส เวรํ ปฏิมุจฺจติ. |
|
เมื่อเขาขอโทษ ถ้าผู้ใดมีความขุ่นเคือง โกรธจัด ไม่ยอมรับ
ผู้นั้นชื่อว่าหมกเวรไว้. |
|
(เทวดา) |
สํ. ส. ๑๕/๓๔. |
|
|
|
๙๘. |
อปฺปกา เต มนุสฺเสสุ |
เย ชนา ปารคามิโน |
|
อถายํ อิตรา ปชา |
ตีรเมวานุธาวติ. |
|
ในหมู่มนุษย์ คนที่ถึงฝั่ง (นิพพาน) มีน้อย, ส่วนประชา
นอกนี้ วิ่งอยู่ตามชายฝั่ง. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. ธ. ๒๕/๒๖. |
|
|
|
๙๙. |
อสุภาย จิตฺตํ ภาเวหิ |
เอกคฺคํ สุสมาหิตํ |
|
สติ กายคตา ตฺยตฺถุ |
นิพฺพิทาพหุโล ภว. |
|
จงอบรมจิตให้แน่วแน่มั่นคง ด้วยอสุภสัญญา จงมีสติไปในกาย
จงมีความเบื่อหน่ายมาก (ในสังขารทั้งปวง). |
|
(วงฺคีสเถร) |
สํ. ส. ๑๕/๒๗๗. |
|
|
|
๑๐๐. |
อหึสกา เย มุนโย |
นิจฺจํ กาเยน สํวุตา |
|
เต ยนฺติ อจฺจุตํ านํ |
ยตฺถ คนฺตฺวา น โสจเร. |
|
มุนีเหล่าใด เป็นผู้ไม่เบียดเบียน สำรวมทางกายเป็นนิตย์
มุนีเหล่านั้น ย่อมไปสู่สถานไม่จุติ ที่ไปแล้วไม่ต้องเศร้าโศก. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. ธ. ๒๕/๔๕. |
|
|
|
๑๐๑. |
เอวํ กิจฺฉาภโต โปโส |
ปิตุ อปริจารโก |
|
ปิตริ มิจฺฉา จริตฺวาน |
นิรยํ โส อุปปชฺชติ. |
|
ผู้ที่ (มารดา) บิดาเลี้ยงมาโดยยากอย่างนี้ ไม่บำรุง (มารดา)
บิดา ประพฤติผิดใน (มารดา) บิดา ย่อมเข้าถึงนรก. |
|
(โสณโพธิสตฺต) |
ขุ. ชา. สคฺตติ. ๒๘/๖๖. |
|
|
|
๑๐๒. |
เอวํ พุทฺธํ สรนฺตานํ |
ธมฺมํ สงฺฆญฺจ ภิกฺขโว |
|
ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา |
โลมหํโส น เหสฺสติ. |
|
ภิกษุทั้งหลาย ! เมื่อบุคคลระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม และ
พระสงฆ์ อยู่อย่างนี้ ความกล้า ความครั่นคร้าม ขนพอง
สยองเกล้า
จักไม่มี. |
|
(พุทฺธ) |
สํ. ส. ๑๕/๓๒๓. |
|
|
|
๑๐๓. |
เอวํ มนฺทสฺส โปสสฺส |
พาลสฺส อวิชานโต |
|
สารมฺภา ชายเต โกโธ |
โสปิ เตเนว ฑยฺหติ. |
|
ความโกรธเกิดขึ้นแก่คนโง่เขลาไม่รู้แจ้ง เพราะความแข่งดี
เขาย่อมถูกความโกรธนั้นแลเผา. |
|
(โพธิสตฺต) |
ขุ. ชา. ทสก. ๒๗/๒๘๐. |
|
|
|
๑๐๔. |
โอโนทโร โย สหเต ชิฆจฺนํ
ทานฺโต ตปสฺสี มิตปานโภชโน
อาหารเหตุ น กโรติ ปาปํ
ตํ เว นรํ สมณมาหุ โลเก.
|
|
คนใดมีท้องพร่อง ย่อมทนความหิวได้ ผู้ฝึกตนมีความเพียร
กินดื่มพอประมาณ ไม่ทำบาปเพราะอาหาร ท่านเรียกคนนั้นแล
ว่าสมณะในโลก. |
|
|
ขุ. ชา. ทสก. ๒๗/๒๗๔. |
|
|
|
๑๐๕. |
กาเม คิทฺธา กามรตา |
กาเมสุ อธิมุจฺฉิตา |
|
นรา ปาปานิ กตฺวาน |
อุปปชฺชนฺติ ทุคฺคตึ. |
|
นรชนผู้กำหนัดในกาม ยินดีในกาม หมกมุ่นในกาม ทำบาป
ทั้งหลาย ย่อมเข้าถึงทุคติ. |
|
(ปจฺเจกพุทฺธ) |
ขุ. ชา สฏฺิ. ๒๘/๓๓. |
|
|
|
๑๐๖. |
คาเม วา ยทิวารญฺเ |
นินฺเน วา ยทิวา ถเล |
|
ยตฺถ อรหนฺโต วิหรนฺติ |
ตํ ภูมิรามเณยฺยกํ. |
|
พระอรหันต์ทั้งหลาย อยู่ในที่ใด คือบ้านก็ตาม ป่าก็ตาม
ที่ลุ่มก็ตาม ที่ดอนก็ตาม ที่นั้นย่อมเป็นภูมิน่ารื่นรมย์. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. ธ. ๒๕/๒๘. |
|
|
|
๑๐๗. |
โจทิตา เทวทูเตหิ |
เย ปมชฺชนฺติ มาณวา |
|
เต ทีฆรตฺตํ โสจนฺติ |
หีนกายูปคา นรา. |
|
คนเหล่าใด อันเทวทูตตักเตือนแล้ว ยังประมาทอยู่, คนเหล่านั้น
เข้าถึงกายอันเลว ย่อมเศร้าโศกสิ้นกาลนาน. |
|
(พุทฺธ) |
ม. อุป. ๑๔/๓๔๖. |
|
|
|
๑๐๘. |
โจโร ยถา สนฺธฺมุเข คหีโต
สกมฺมุนา หญฺติ ปาปธมฺโม
เอวํ ปชา เปจฺจ ปรมฺหิ โลเก
สกมฺมุนา หญฺติ ปาปธมฺโม.
|
|
โจรผู้มีความชั่ว ถูกเขาจับได้ซึ่งหน้า ย่อมเดือดร้อนเพราะกรรม
ของตนฉันใด ประชาผู้มีความชั่ว ละไปแล้ว ย่อมเดือดร้อน
เพราะกรรมของตนในโลกหน้าฉันนั้น. |
|
(รฏฺปาลเถร) |
ขุ. เถร. ๒๖/๓๗๙. |
|
|
|
๑๐๙. |
ชาติถทฺโธ ธนถทฺโธ |
โคตฺตถทฺโธ จ โย นโร |
|
สญฺาตึ อติมญฺเติ |
ตํ ปราภวโต มุขํ. |
|
คนใด หยิ่งเพราะชาติ หยิ่งเพราะทรัพย์ หยิ่งเพราะสกุล ย่อม
ดูหมิ่นญาติของตน ข้อนั้นเป็นเหตุแห่งความเสื่อมของคนนั้น. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๓๔๗. |
|
|
|
๑๑๐. |
ตํ พฺรูมิ อุปสนฺโตติ |
กาเมสุ อนเปกฺขินํ |
|
คนฺถา ตสฺส น วิชฺชนฺติ |
อตาริ โส วิสตฺติกํ. |
|
เราเรียกผู้ไม่เยื่อใยในกามทั้งหลายนั้นว่าผู้สงบ, เครื่องร้อยรัด
ของเขาไม่มี เขาจึงข้ามตัณหาว้าวุ่นไปได้. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๕๐๑.
ขุ. มหา. ๒๙/๒๙๕,๒๙๗. |
|
|
|
๑๑๑. |
เตชวาปิ หิ นโร วิจกฺขโณ
สกฺกโต พหุชนสฺส ปูชิโต
นารีนํ วสงฺคโต น ภาสติ
ราหุนา อุปหโตว จนฺทิมา.
|
|
ถึงเป็นคนมีเดช มีปัญญาเฉียบแหลม อันคนเป็นอันมาก
สักการบูชา
อยู่ในอำนาจของสตรีเสียแล้ว ย่อมไม่รุ่งเรือง
เหมือนพระจันทร์ถูกพระราหูบังฉะนั้น. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. ชา อสีติ. ๒๘/๑๒๗. |
|
|
|
๑๑๒. |
ทูเร สนฺโต ปกาเสนฺติ |
หิมวนฺโตว ปพฺพโต |
|
อสนฺเตตฺถ น ทิสฺสนฺติ |
รตฺติขิตฺตา ยถา สรา. |
|
สัตบุรุษย่อมปรากฏได้ในที่ไกล เหมือนภูเขาหิมพานต์ อสัตบุรุษ
ถึงนั่งอยู่ในที่นี้ก็ไม่ปรากฏ เหมือนลูกศรที่ยิงไปกลางคืน. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. ธ. ๒๕/๕๕. |
|
|
|
๑๑๓. |
ธีโร โภเค อธิคมฺเม |
สงฺคณฺหาติ จ าตเก |
|
เตน โส กิตฺตึ ปปฺโปติ |
เปจฺจ สคฺเค ปโมทติ. |
|
ผู้มีปรีชาได้โภคะแล้ว ย่อมสงเคราะห์หมู่ญาติ, เพราะการ
สงเคราะห์นั้น เขาย่อมได้เกียรติ ละไปแล้ว ย่อมบันเทิง
ในสวรรค์. |
|
(โพธิสตฺต) |
ขุ. ชา. ฉกฺก. ๒๗/๒๐๕. |
|
|
|
๑๑๔. |
น ปณฺฑิตา อตฺตสุขสฺส เหตุ
ปาปานิ กมฺมานิ สมาจรนฺติ
ทุกฺเขน ผุฏา ขลิตาปิ สนฺตา
ฉนฺทา จ โทสา น ชหนฺติ ธมฺมํ.
|
|
บัณฑิต ย่อมไม่ประพฤติกรรมชั่ว เพราะเหตุแห่งสุขเพื่อตน,
สัตบุรุษอันทุกข์ถูกต้อง แม้พลาดพลั้งไป ก็ไม่ยอมละธรรม
เพราะฉันทาคติและโทสาคติ. |
|
(สรภงฺคโพธิสตฺต) |
ชาตกฏฺกถา. ๗/๓๘๘. |
|
|
|
๑๑๕. |
น เว อนตฺถกุสเลน |
อตฺถจริยา สุขาวหา |
|
หาเปติ อตฺถํ ทุมฺเมโธ |
กปิ อารามิโก ยถา. |
|
การบำเพ็ญประโยชน์โดยไม่ฉลาดในประโยชน์ ก็นำความสุข
มาให้ไม่ได้เลย, ผู้มีปัญญาทรามย่อมพร่าประโยชน์ ดุจลิงเฝ้าสวน
ฉะนั้น. |
|
|
รอตรวจสอบที่มา๑๕. |
|
|
|
๑๑๖. |
น หิ สพฺเพสุ าเนสุ |
ปุริโส โหติ ปณฺฑิโต |
|
อิตฺถีปิ ปณฺฑิตา โหติ |
ตตฺถ ตตฺถ วิจกฺขณา. |
|
บุรุษจะเป็นบัณฑิตในที่ทั้งปวงก็หาไม่, แม้สตรีก็เป็นบัณฑิตมี
ปัญญาเฉียบแหลมในที่นั้น ๆ ได้เหมือนกัน. |
|
(เทวดา) |
ขุ. ชา. อฏฺก. ๒๗/๒๔๑. |
|
|
|
๑๑๗. |
นินฺทาย นปฺปเวเธยฺย
น อุณฺณเมยฺย ปสํสิโต ภิกฺขุ
โลกํ สห มจฺฉริเยน
โกธํ เปสุณิยญฺจ ปนุเทยฺย.
|
|
ภิกษุไม่ควรหวั่นไหวเพราะนินทา ได้รับสรรเสริญ ก็ไม่ควร
เหิมใจ พึงบรรเทาความโลภกับความตระหนี่ ความโกรธ
และความส่อเสียดเสีย. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๕๑๖.
ขุ. มหา. ๒๙/๔๖๔,๔๖๖. |
|
|
|
๑๑๘. |
ปณฺฑิโต จ วิยตฺโต จ |
วิภาวี จ วิจกฺขโณ |
|
ขิปฺปํ โมเจติ อตฺตานํ |
มา ภายิตฺถาคมิสฺสติ. |
|
ผู้ฉลาดเฉียบแหลม แสดงเหตุและไม่ใช่เหตุได้แจ่มแจ้ง และ
คาดเห็นผลประจักษ์ ย่อมเปลื้องตน (จากทุกข์) ได้ฉับพลัน
อย่ากลัวเลย เขาจักกลับมาได้. |
|
(ราช) |
ขุ. ชา. มหา. ๒๘/๓๔๔. |
|
|
|
๑๑๙. |
ปณฺฑิโตติ สมญฺาโต |
เอกจริยํ อธิฏฺิโต |
|
อถาปิ เมถุเน ยุตฺโต |
มนฺโทว ปริกิสฺสติ. |
|
ผู้ตั้งใจประพฤติตนเป็นคนโสด เขารู้กันว่าเป็นบัณฑิต,
ส่วนคนโง่ฝักใฝ่ในเมถุน ย่อมเศร้าหมอง. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๔๙๔.
ขุ. มหา. ๒๙/๑๘๖. |
|
|
|
๑๒๐. |
ปหาย ปญฺจาวรณานิ เจตโส
อุปกฺกิเลเส พฺยปนุชฺช สพฺเพ
อนิสฺสิโต เฉตฺวา สิเนหโทสํ
เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป.
|
|
ผู้ฉลาดและเครื่องกั้นจิต ๕ ประการ กำจัดอุปกิเลสทั้งหมด
ตัดรักและชังแล้ว อันตัณหาและทิฏฐิอาศัยไม่ได้ พึงเที่ยวไป
ผู้เดียวเหมือนนอแรด ฉะนั้น. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๓๓๘.
ขุ. จู. ๓๐/๔๑๐. |
|
|
|
๑๒๑. |
ปุตฺตา มตฺถิ ธนมตฺถิ |
อิติ พาโล วิหญฺติ |
|
อตฺตา หิ อตฺตโน นตฺถิ |
กุโต ปุตฺตา กุโต ธนํ. |
|
คนเขลาคิดว่า เรามีบุตร เรามีทรัพย์ จึงเดือดร้อน, ที่แท้ตน
ของตนก็ไม่มี จะมีบุตร มีทรัพย์ มาแต่ที่ไหนเล่า. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. ธ. ๒๕/๒๓. |
|
|
|
๑๒๒. |
พฺรหฺมาติ มาตาปิตโร |
ปุพฺพาจริยาติ วุจฺจเร |
|
อาหุเนยฺยา จ ปุตฺตานํ |
ปชาย อนุกมฺปกา. |
|
มารดาบิดา ท่านว่าเป็นพรหม เป็นบุรพาจารย์ เป็นที่นับถือ
ของบุตร และเป็นผู้อนุเคราะห์บุตร. |
|
(โสณโพธิสตฺต) |
ขุ. ชา. สตฺตติ. ๒๗/๖๖. |
|
|
|
๑๒๓. |
มธุวา มญฺตี พาโล |
ยาว ปาปํ น ปจฺจติ, |
|
ยทา จ ปจฺจตี ปาปํ |
อถ ทุกขํ นิคจฺฉติ. |
|
ตราบเท่าที่บาปยังไม่ให้ผล คนเขลายังเข้าใจว่ามีรสหวาน,
แต่บาปให้ผลเมื่อใด คนเขลาย่อมประสบทุกข์เมื่อนั้น. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. ธ. ๒๕/๒๔. |
|
|
|
๑๒๔. |
ยํ อุสฺสุกฺกา สงฺฆรนฺติ |
อลกฺขิกา พหุ ธนํ |
|
สิปฺปวนฺโต อสิปฺปา วา |
ลกฺขิกา ตานิ ภุญฺชเร. |
|
คนไม่มีโชค มีศิลป์หรือไม่มีศิลป์ก็ตาม ขวนขวายรวบรวม
ทรัพย์ใดไว้ได้เป็นอันมาก ส่วนคนมีโชคย่อมบริโภคทรัพย์เหล่านั้น. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. ชา. ติก. ๒๗/๑๑๗. |
|
|
|
๑๒๕. |
ยํ ยํ ชนปทํ ยาติ |
นิคเม ราชธานิโย |
|
สพฺพตฺถ ปูชิโต โหติ |
โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ. |
|
ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร ไปสู่แว่นแคว้น ตำบลหรือเมืองหลวง
ใด ๆ ก็ตาม ย่อมมีผู้บูชาในที่ทั้งปวง. |
|
(เตมิยโพธิสตฺต) |
ขุ. ชา. มหา. ๒๘/๑๕๔. |
|
|
|
๑๒๖. |
ยโต จ โหติ ปาปิจฺโฉ |
อหิริโก อนาทโร |
|
ตโต ปาปํ ปสวติ |
อปายํ เตน คจฺฉติ. |
|
คนปรารถนาลามก ไม่ละอาย ไม่เอื้อเฟื้อ เพราะเหตุใด, เขา
ย่อมสร้างบาปเพราะเหตุนั้น เขาไปสู่อบาย เพราะเหตุนั้น. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. อิติ. ๒๕/๒๕๖. |
|
|
|
๑๒๗. |
ยมฺหา ธมฺมํ วิชาเนยิย |
สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิตํ |
|
สกฺกจฺจํ นํ นมสฺเสยฺย |
อคฺคิหุตฺตํว พฺราหฺมโณ. |
|
บุคคลรู้แจ้งธรรม ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว
จากผู้ใด พึงนอบน้อมผู้นั้นโดยเคารพ เหมือนพราหมณ์
นับถือการบูชาไฟ
ฉะนั้น. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. ธ. ๒๕/๖๘. |
|
|
|
๑๒๘. |
ยสฺส ปาปํ กตํ กมฺมํ |
กุสเลน ปิถียติ |
|
โสมํ โลกํ ปภาเสติ |
อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา. |
|
ผู้ใดทำกรรมชั่วแล้ว ละเสียได้ด้วยกรรมดี, ผู้นั้นย่อมยังโลกนี้
ให้สว่าง เหมือนพระจันทร์พ้นจากเมฆหมอกฉะนั้น. |
|
(องฺคุลิมาล) |
ม. ม. ๑๒/๔๘๗. |
|
|
|
๑๒๙. |
ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย |
นิสีเทยฺย สเยยฺย วา |
|
น ตสฺส สาขํ ภญฺเชยฺย |
มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก. |
|
บุคคลนั้นหรือนอนที่ร่มเงาต้นไม้ใด ไม่ควรหักกิ่งต้นไม้นั้น,
เพราะผู้ประทุษร้ายมิตร เป็นคนเลวทราม. |
|
(โพธิสตฺต) |
ขุ. ชา. มหา. ๒๘/๒๖. |
|
|
|
๑๓๐. |
เย จ ธมฺมสฺส กุสลา |
โปราณสฺส ทิสํปติ |
|
จาริตฺเตน จ สมฺปนฺนา |
น เต คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ. |
|
ชนเหล่าใด ฉลาดในขนบธรรมเนียมโบราณ และประกอบด้วย
จารีตประเพณีดี, ชนเหล่านั้น ย่อมไม่ไปสู่ทุคติ. |
|
(โสณโพธิสตฺต) |
ขุ. ชา. สตฺตติ. ๒๘/๖๓. |
|
|
|
๑๓๑. |
เย น กาหนฺติ โอวาทํ |
นรา พุทฺเธน เทสิตํ |
|
พฺยสนํ เต คมิสฺสนฺติ |
รกฺขสีหิว วาณิชา. |
|
ผู้ใดจักไม่ทำตามโอวาทที่ผู้รู้แสดงแล้ว, ผู้นั้นจักถึงความย่อยยับ
เหมือนพ่อค้าถึงความย่อยยับเพราะพวกโจรสลัดฉะนั้น. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. ชา. ทุก. ๒๗/๗๑. |
|
|
|
๑๓๒. |
โย จตฺตานํ สมุกฺกํเส |
ปเร จ อวชานติ |
|
นิหีโน เสน มาเนน |
ตํ ชญฺา วสโล อิติ. |
|
ผู้ใดยกย่องตนและดูหมิ่นผู้อื่น, เป็นคนเลวเพราะการถือตัวเอง
พึงรู้ผู้นั้นว่าเป็นคนเลว. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๓๕๑. |
|
|
|
๑๓๓. |
โย จ สีลญฺจ ปญฺฺจ |
สุตญฺจตฺตนิ ปสฺสติ |
|
อุภินฺนมตฺถํ จรติ |
อตฺตโน จ ปรสฺส จ. |
|
ผู้ใดเห็นศีล ปัญญา และสุตะ ในตน. ผู้นั้นย่อมประพฤติ
ประโยชน์ตนและผู้อื่นทั้ง ๒ ฝ่าย. |
|
(โพธิสตฺต) |
ขุ. ชา. สตฺตก. ๒๗/๒๒๑. |
|
|
|
๑๓๔. |
โย จ เมตฺตํ ภาวยติ |
อปฺปมาณํ ปฏิสฺสโต |
|
ตนู สํโยชนา โหนฺติ |
ปสฺสโต อุปธิกฺขยํ. |
|
ผู้ใดมีสติเฉพาะหน้า เจริญเมตตาไม่มีประมาณ, สังโยชน์
ของผู้เห็นความสิ้นแห่งอุปธินั้น ย่อมเบาบาง. |
|
(พุทฺธ) |
องฺ. อฏฺก. ๒๓/๑๕๒. |
|
|
|
๑๓๕. |
โย ทนฺธกาเล ตรติ |
ตรณีเย จ ทนฺธเย |
|
อโยนิโส สํวิธาเนน |
พาโล ทุกฺขํ นิคจฺฉติ. |
|
ผู้ใดย่อมรีบในกาลที่ควรช้า และช้าในกาลที่ควรรีบ, ผู้นั้น
เป็นคนเขลา ย่อมถึงทุกข์ เพราะการจัดทำโดยไม่แยบคาย. |
|
(สมฺภูตเถร) |
ขุ. เถร. ๒๖/๓๑๓. |
|
|
|
๑๓๖. |
โย ทนฺธกาเล ทนฺเธติ |
ตรณีเย จ ตารเย |
|
โยนิโส สํวิธาเนน |
สุขํ ปปฺโปติ ปณฺฑิโต. |
|
ผู้ใดช้าในกาลที่ควรช้า และรีบในกาลที่ควรรีบ, ผู้นั้นเป็นผู้
ฉลาด ย่อมถึงสุข เพราะการจัดทำโดยแยบคาย. |
|
(สมฺภูตเถร) |
ขุ. เถร. ๒๖/๓๑๓. |
|
|
|
๑๓๗. |
โย น หนฺติ น ฆาเตติ |
น ชินาติ น ชาปเย |
|
เมตฺตโส สพฺพภูตานํ |
เวรนฺตสฺส น เกนจิ. |
|
ผู้ใดไม่ฆ่าเอง ไม่ให้ผู้อื่นฆ่า ไม่ชนะเอง ไม่ให้ผู้อื่นชนะ,
ผู้นั้น ชื่อว่ามีเมตตาต่อสัตว์ทั้งปวง และไม่มีเวรกับใคร ๆ. |
|
(พุทฺธ) |
องฺ. อฏฺก. ๒๓/๑๕๒. |
|
|
|
๑๓๘. |
โย มาตรํ ปิตรํ วา |
มจฺโจ ธมฺเมน โปสติ |
|
อิเธว นํ ปสํสนฺติ |
เปจฺจ สคฺเค ปโมทติ. |
|
ผู้ใดเลี้ยงมารดาบิดาโดยธรรม บัณฑิตย่อมสรรเสริญผู้นั้น
ในโลกนี้, เขาละไปแล้ว ย่อมบันเทิงในสวรรค์. |
|
(สุวณฺณสามโพธิสตฺต) |
ขุ. ชา. มหา. ๒๘/๑๙๖. |
|
|
|
๑๓๙. |
โย เว กตญฺญู กตเวทิ ธีโร
กลฺยาณมิตฺโต ทฬฺหภตฺติ จ โหติ
ทุกฺขิตสฺส สกฺกจฺจ กโรติ กิจฺจํ
ตถาวิธํ สปฺปุริสํ วทนฺติ.
|
|
ผู้มีปรีชาใด เป็นคนกตัญญูกตเวที มีกัลยาณมิตรสนิทสนมกัน
และช่วยทำกิจของมิตรผู้ตกยากโดยเต็มใจ ท่านเรียกคน
อย่างนั้นว่าสัตบุรุษ. |
|
(สรภงฺคโพธิสตฺต) |
ขุ. ชา. จตฺตาฬีส. ๒๗/๕๔๑. |
|
|
|
๑๔๐. |
โย หเว อิณมาทาย |
ภุญฺชมาโน ปลายติ |
|
น หิ เต อิณมตฺถีติ |
ตํ ชญฺา วสโล อิติ. |
|
ผู้ใด กู้หนี้เขามากินมาใช้แล้วหลบหนีไป ด้วยปฏิเสธว่าหนี้ของ
ท่านไม่มี พึงรู้ผู้นั้นว่าเป็นคนเลว. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๓๔๐. |
|
|
|
๑๔๑. |
โย โหติ พฺยตฺโต จ วิสารโท จ
พหุสฺสุโต ธมฺมธโร จ โหติ
ธมฺมสฺส โหติ อนุธมฺมจารี
ส ตาทิโส วุจฺจติ สงฺฆโสภโณ.
|
|
ผู้ใดเป็นคนฉลาด แกล้วกล้า เป็นผู้ฟังมาก ทรงธรรม และ
ประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม, คนเช่นนั้นท่านเรียกว่า ยังหมู่
ให้งดงาม. |
|
(พุทฺธ) |
องฺ. จตุกฺก. ๒๑/๑๐. |
|
|
|
๑๔๒. |
ราคญฺจ โทสญฺจ ปหา โมหํ
สนฺทาลยิตฺวาน สํโยชนานิ
อสนฺตสํ ชีวิตสงฺขยมฺหิ
เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป.
|
|
บัณฑิตละราคะ โทสะ และโมหะ ทำลายสังโยชน์ได้แล้ว
ย่อมไม่หวาดเสียวในสิ้นชีวิต. พึงเที่ยวไปผู้เดียวเหมือนนอแรด
ฉะนั้น. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๓๓๙.
ขุ. จู. ๓๐/๔๒๖, ๔๒๗. |
|
|
|
๑๔๓. |
สเจ อินฺทฺริยสมฺปนฺโน |
สนฺโต สนฺติปเท รโต |
|
ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ |
เชตฺวา มารํ สวาหนํ. |
|
ถ้าเป็นผู้มีอินทรีย์สมบูรณ์ สงบและยินดีในทางสงบแล้ว จึงชื่อ
ว่าชนะมารพร้อมทั้งพาหนะ ทรงไว้ซึ่งกายอันมีในที่สุด. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. อิติ. ๒๕/๒๗๑. |
|
|
|
๑๔๔. |
สเจ ภายถ ทุกฺขสฺส |
สเจ โว ทุกฺขมปฺปิยํ |
|
มา กตฺถ ปาปกํ กมฺมํ |
อาวี วา ยทิ วา รโห. |
|
ถ้าท่านกลัวทุกข์ ถ้าท่านไม่รักทุกข์, ก็อย่าทำบาปกรรม
ทั้งในที่แจ้งทั้งในที่ลับ. |
|
(พทฺธ) |
ขุ. อุ. ๒๕/๑๕๐. |
|
|
|
๑๔๕. |
สพฺพา ทิสา อนุปริคมฺม เจตสา
เนวชฺฌคา ปิยตรมตฺตนา กฺวจิ
เอวํ ปิโย ปุถุ อตฺตา ปเรสํ
ตสฺมา น หึเส ปรํ อตฺตกาโม.
|
|
เราคิดค้นหาทุกทิศแล้ว ก็ไม่พบผู้อื่นซึ่งเป็นที่รักยิ่งกว่าตน
ในที่ไหน ๆ, ถึงผู้อื่นก็มีตนเป็นที่รักมากอย่างนี้ เพราะฉะนั้น
ผู้รักตน
จึงไม่ควรเบียดเบียนผู้อื่น. |
|
(พุทฺธ) |
สํ. ส. ๑๕/๑๐๙. |
|
|
|
๑๔๖. |
สลาภํ นาติมญฺเยฺย |
นาญฺเสํ ปิหยญฺจเร |
|
อญฺเสํ ปิหยํ ภิกฺขุ |
สมาธึ นาธิคจฺฉติ. |
|
ไม่พึงดูหมิ่นลาภของตน ไม่ควรเที่ยวปรารถนาลาภของผู้อื่น
ภิกษุปรารถนาลาภของผู้อื่น ย่อมไม่บรรลุสมาธิ. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. ธ. ๒๕/๖๕. |
|
|
|
๑๔๗. |
สาติเยสุ อนสฺสาวี |
อติมาเน จ โน ยุโต |
|
สณฺโห จ ปฏิภาณวา |
น สทฺโธ น วิรชฺชติ. |
|
ผู้ไม่ระเริงไปในอารมณ์ที่ชอบใจ ไม่ประกอบในความดูหมิ่น
เป็นผู้ละเอียดเฉียบแหลม ย่อมไม่เชื่อง่าย ไม่หน่ายแหนง. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๕๐๑.
ขุ. มหา. ๒๙/๒๗๙,๒๘๔. |
|
|
|
๑๔๘. |
สารตฺตา กามโภเคสุ |
คิทฺธา กาเมสุ มุจฺฉิตา |
|
อติสารํ น พุชฺฌนฺติ |
มจฺฉา ขิปฺปํว โอฑฺฑิตํ. |
|
ผู้ติดใจในการบริโภคกาม ยินดีหมกมุ่นในกามทั้งหลาย ย่อม
ไม่รู้สึกซึ่งความถลำตัว เหมือนปลาถลันเข้าลอบที่เขาดักไว้
ไม่รู้สึกตัว
ฉะนั้น. |
|
(พุทฺธ) |
สํ. ส. ๑๕/๑๐๘. |
|
|
|
๑๔๙. |
สุปิเนน ยถาปิ สงฺคตํ
ปฏิพุทฺโธ ปุริโส น ปสฺสติ
เอวมฺปิ ปิยายิตํ ชนํ
เปตํ กาลกตํ น ปสฺสติ.
|
|
คนผู้ตื่นขึ้นแล้ว ย่อมไม่เห็นอารมณ์อันประจวบด้วยความฝัน
ฉันใด, คนผู้อยู่ย่อมไม่เห็นชนอันตนรักทำกาละล่วงไปฉันนั้น. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๔๙๒.
ขุ. มหา. ๒๙/๑๕๑,๑๕๒. |
|
|
|
๑๕๐. |
เสหิ ทาเรหิ อสนฺตุฏฺโ |
เวสิยาสุ ปทุสฺสติ |
|
ทุสฺสติ ปรทาเรสุ |
ตํ ปราภวโต มุขํ. |
|
ผู้ไม่สันโดษด้วยภริยาของตน ย่อมซุกซนในหญิงแพศยา และ
ประทุษร้ายในภริยาของคนอื่น, นั่นเป็นเหตุแห่งความเสื่อม. |
|
(พุทฺธ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๓๔๘. |
|
|
|